ปลวกเป็นแมลงชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่อง ”กินไม่เลือก” โดยเฉพาะวัสดุที่มีเซลลูโลสเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นไม้ กระดาษ ผ้า หรือแม้แต่แผ่นยิปซัมในผนังบ้าน หากปล่อยให้ปลวกอาศัยอยู่ในบ้านโดยไม่กำจัดปลวกอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงถึงขั้นต้องรื้อผนัง ซ่อมพื้น หรือเปลี่ยนโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์
แม้จะสามารถเรียกผู้เชี่ยวชาญมาจัดการได้ แต่หลายกรณีก็ลองกำจัดปลวกเองง่ายๆ ได้ที่บ้านด้วยวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย ประหยัด และเหมาะกับพื้นที่เฉพาะ
ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 7 วิธี กำจัดปลวกด้วยตัวเอง ที่คุณสามารถลงมือทำได้ทันที พร้อมข้อดีข้อเสีย ของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณประเมินและเลือกทางที่เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด
1. ใช้น้ำยากำจัดปลวกแบบพ่นหรือทา
วิธีการ : ใช้น้ำยากำจัดปลวกพ่นหรือทาบริเวณที่พบร่องรอยปลวก เช่น รอบแตก รอยแงะ ผนังไม้ ซอกบัว หรือเฟอร์นิเจอร์
- ข้อดี : หาซื้อง่าย ใช้งานสะดวก เห็นผลไวในระยะสั้น
- ข้อเสีย: กลิ่นแรง เสี่ยงกระทบสุขภาพถ้าใช้งานในพื้นที่ปิด เกิดอันตรายต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง ต้องฉีดซ้ำเพื่อผลต่อเนื่อง
2. ใช้เหยื่อล่อปลวก
วิธีการ: ติดตั้งกล่องเหยื่อปลวกในดินหรือพื้นที่ใกล้จุดที่พบปลวก เหยื่อล่อปลวก เมื่อออกฤทธิ์ปลวกจะนำสารพิษกลับไปที่รังทำให้ปลวกตัวอื่นตายตาม
- ข้อดี: สามารถกำจัดปลวกได้ทั้งรัง ไม่ต้องรื้อพื้นหรือเจาะพื้น
- ข้อเสีย: ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงเดือนจึงเห็นผล
3. ใช้กรดบอริก
วิธีการ: ผสมกรดบอริกกับน้ำตาล น้ำ หรืออาหารที่ปลวกชอบ และวางไว้ใกล้ทางเดินปลวก
- ข้อดี: ต้นทุนต่ำ ใช้ง่าย ทำให้ปลวกตายเมื่อกินเข้าไป
- ข้อเสีย: อาจเป็นอันตรายหากสัมผัสโดยตรงหรือกินเข้าไป รวมทั้งไม่ได้ผลกับปลวกใต้ดินหรือลึกในผนัง
4. ใช้สมุนไพรไล่ปลวก เช่น ตะไคร้หอม ใบสะเดา ใบสาบเสือ
วิธีการ: นำน้ำต้มสมุนไพรเข้มข้นกรองใส่ขวดฉีดพ่นในบริเวณที่เสี่ยงปลวก หรือบดแห้ง แล้วโรยตามพื้น
- ข้อดี: ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นกลิ่นสมุนไพรบางชนิดไล่ปลวกได้จริง
- ข้อเสีย: ใช้ไล่ปลวกเท่านั้น ไม่ได้ฆ่าหรือกำจัดรัง ทำให้ต้องฉีดซ้ำสม่ำเสมอ เพราะกลิ่นจางไว
5. ใช้ความร้อน เช่น ไฟเป่า หรือแดดจัด
วิธีการ: นำเฟอร์นิเจอร์ที่มีปลวกไปตากแดดแรงๆ หรือใช้เครื่องเป่าลมร้อน ปืนลมร้อนบริเวณที่มีปลวก
- ข้อดี : ปลวกตายทันทีเมื่อได้รับความร้อนสูง โดยไม่ใช้สารเคมี ทำให้ไม่เกิดสารตกค้าง
- ข้อเสีย: ใช้ได้เฉพาะจุดที่ของสามารถเคลื่อนที่ได้ และเสี่ยงเกิดอัคคีภัยหากควบคุมไม่ดี
6. ใช้น้ำมันส้ม
วิธีการ: ใช้น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มหยดลงบนรังปลวกหรือฉีดพ่นจุดที่พบปลวก
- ข้อดี: กลิ่นหอม ไม่รบกวนผู้อยู่อาศัย เพราะเป็นธรรมชาติ ใช้ในบ้านได้อย่างปลอดภัย
- ข้อเสีย: ต้องใช้ปริมาณมากถึงจะได้ผล โดยอาจไม่ได้ผลกับปลวกในจุดลึกหรือโครงสร้างบ้าน
7. ใช้ดินเบา
วิธีการ: โรยผงดินเบา (ชนิดเกรดปลอดภัยสำหรับใช้ภายในบ้าน) ตามทางเดินปลวกหรือรังปลวก
- ข้อดี: ทำลายผิวปลวกจนตายโดยไม่ใช้สารพิษ และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
- ข้อเสีย: ไม่สามารถใช้พื้นที่ชื้นได้ เพราะดินเบาจะจับตัว โดยต้องโรยซ้ำหากปลวกยังคงกลับมา
เปรียบเทียบ 7 วิธีกำจัดปลวกเองที่บ้าน
วิธีการ | เหมาะสำหรับ | ผลลัพธ์ | ความปลอดภัย |
น้ำยาพ่นทา | พื้นที่เฉพาะจุด | เร็ว | ปานกลาง |
เหยื่อล่อปลวก | ปลวกในรัง | ช้า | สูง |
กรดบอริก | ทางเดินปลวก | ปานกลาง | ต่ำ (ต้องระวัง) |
สมุนไพร | ไล่ปลวก | ปานกลาง | สูง |
ความร้อน | เฟอร์นิเจอร์ | เร็ว | ต่ำ – ปานกลาง |
น้ำมันส้ม | จุดเฉพาะ | ปานกลาง | สูง |
ดินเบา | ทางเดินปลวก | ปานกลาง | สูง |
ควรตรวจเช็กปลวกบ่อยแค่ไหน?
การตรวจเช็กปลวกเป็นหนึ่งใน “กิจวัตรประจำปีของเจ้าของบ้าน” โดยแนะนำควรทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ปลวกสร้างความเสียหายแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและปลายฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ฤดูผสมพันธุ์และขยายรังของปลวกอย่างรวดเร็ว ความชื้นในช่วงนี้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของปลวกมากกว่าช่วงอื่น แต่ในกรณีที่บ้านของคุณมี ความเสี่ยง เช่น บ้านคุณมีโครงสร้างไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้จำนวนมาก พื้นบ้านติดดิน หรือไม่มีฉนวนกันปลวก บ้านอยู่ใกล้สนามหญ้า สวน แหล่งน้ำ หรือบริเวณชื้นแฉะ ควรเพิ่มความถี่ในการตรวจเช็กเป็นทุก 2 – 4 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนจะลุกลามจนยากต่อการควบคุม
การกำจัดปลวกเองที่บ้านสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหา งบประมาณและความสะดวกของผู้อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามหากบ้านของคุณมีปัญหาปลวกในระดับที่รุนแรง เช่น โครงสร้างเสียหาย หรือมีปลวกใต้พื้น ผนัง ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำจัดถึงต้นตอ ไม่ต้องลองผิดลองถูก ไว้ใจมืออาชีพ อย่าง King Service บริการกำจัดปลวกแบบมืออาชีพ เห็นผลรวดเร็ว ปลอดภัย โดยทีมงานมากประสบการณ์