สายพันธุ์หนูในประเทศไทยที่ต้องรู้

หนูเข้าบ้านอันตรายที่ควรกำจัดและป้องกัน

กำจัดหนู


สายพันธุ์หนูในประเทศไทยที่ต้องรู้

หนูเข้าบ้านอันตรายที่ควรกำจัดและป้องกัน

 

หนูจัดอยู่ในสัตว์จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีฟันคู่อยู่บริเวณทั้งด้านบนและด้านล่างสามารถกัดแทนสิ่งของได้ไม่ว่าจะแข็งหรือนิ่ม อาทิเช่น ผ้าม่าน, ตู้ไม้, โต๊ะไม้, สายไฟ, สายโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งฝ้าเพดาน เป็นต้น ส่งผลให้เหล่าคนรักบ้านทั้งหลายเมื่อพบเจอหนูอาศัยอยู่บริเวณรอบบ้านหรือภายในบ้านมักจะเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมากเพราะเกรงว่าหนูจะเข้ามาทำลายเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของภายในบ้านให้ได้รับความเสียหายและที่สำคัญ นอกจากหนูจะสร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือนทั้งภายในและภายนอกแล้วหนูยังเป็นแหล่งพาหะที่อาจก่อให้เกิดเชื้อโรคต่างๆ ได้ ดังนั้นเมื่อเราพบเจอสัตว์จำพวกนี้ก็ควรรีบหาวิธีการกำจัดหนูอาจจะใช้วิธีกำจัดหนูแบบง่ายๆ อาทิเช่น การวางกับดักหนูหรือวางยาเบื่อหนู แต่ถ้าหากต้องการกำจัดหนูให้สิ้นซากก็สามารถปรึกษาบริษัทกำจัดหนูชั้นนำเพื่อที่จะได้เข้ารับคำปรึกษาและหาวิธีการกำจัดหนูให้หมดไปในครั้งเดียว

 

สายพันธุ์หนูในประเทศไทยมีอะไรบ้าง?

ถ้าพูดถึงสายพันธุ์หนูในประเทศไทยทั้งหมดนั้นจะประกอบไปด้วยหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เพราะฉะนั้นเราจะขอพูดถึงสายพันธุ์หนูในประเทศไทยที่มักพบเจอมากที่สุดโดยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือหนูที่พบในแหล่งชุมชน และหนูที่พบในพื้นที่การเกษตรดังต่อไปนี้

1. สายพันธุ์หนูในประเทศไทยแบ่งตามลักษณะที่พบเจอ ได้แก่ หนูบ้านหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหนูในเมือง และหนูนาหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหนูป่านั่นเอง

– หนูบ้านหรือหนูในเมือง : มักจะถูกพบตามแหล่งที่อยู่บริเวณในเมืองหรือแหล่งชุมชน สายพันธุ์หนูชนิดนี้จะสามารถหาอาหารและกินอาหารได้แบบที่มนุษย์กิน ส่วนใหญ่สายพันธุ์หนูประเภทนี้จะอาศัยอยู่ในบริเวณท่อน้ำ, ตลาด, ภายในบ้านหรือภายในอาคารเพื่อที่หนูเหล่านี้จะสะดวกต่อการหาอาหาร ดังนั้นสำหรับคนรักบ้านทั้งหลายควรพึงระวังหนูสายพันธุ์เพราะอาจจะอาศัยอยู่ภายในบ้านของเราและคอยกัดแทะเฟอร์นิเจอร์หรือแทะเล็มอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารของบ้านเรา และอย่าลืมว่าหนูสามารถเป็นพานะนำโรคร้ายมาสู่มนุษย์ได้เพราะฉะนั้นควรหาวิธีการป้องกันหรือวิธีการกำจัดหนูเพื่อความสะอาดภายในบ้านและลดเชื้อโรคลงได้ สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำจัดหนูให้สิ้นซากกับบริษัทกำจัดหนูมืออาชีพได้ที่นี่

– หนูนาหรือหนูป่า : มักจะถูกพบตามแหล่งที่อยู่บริเวณแหล่งธรรมชาติต่างๆ อาทิเช่น บริเวณพื้นที่ป่าหรือบริเวณพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งสายพันธุ์หนูชนิดนี้มักจะกินอาหารจำพวกพืชผักผลไม้หรือสัตว์เล็กๆ เป็นหลัก อาทิเช่น หอย, แมลง, ปลา, ใบไม้, ผลไม้ หรือรากต้นไม้ เป็นต้น ดังนั้นเหล่าเกษตรกรทั้งหลายมักจะเกรงกลัวสายพันธุ์หนูประเภทนี้เพราะจะเป็นตัวบ่อนทำลายไร่สวนหรือไร่นาให้ก่อให้เกิดความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นหากพบเห็นหนูสายพันธุ์ประเภทอยู่บริเวณแหล่งเพาะปลูกของเรา ควรรีบหาวิธีการกำจัดหนูหรือปรึกษาบริษัทกำจัดหนูที่เชี่ยวชาญเรื่องการกำจัดหนูโดยเฉพาะ

2. สายพันธุ์หนูในประเทศไทย ‘หนูท้องขาว’ จะเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของหนูที่มักพบเจอมากที่สุดประกอบไปด้วย 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ หนูท้องขาวบ้าน, หนูนอรเวย์ และหนูจี๊ด

– หนูท้องขาวบ้าน : มักจะถูกพบตามแหล่งที่อยู่บริเวณที่สูง อาทิเช่น บนต้นไม้สูง, ใต้หลังคาบ้าน หรือบนฝ้าเพดาน เป็นต้น สามารถก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้อยู่อาศัยได้ แต่สายพันธุ์หนูประเภทนี้มักจะชอบกินพวกพืชผักผลไม้มากกว่าเนื้อสัตว์ ดังนั้นหากเราไม่เก็บผักหรือผลไม้ไว้ในที่มิดชิดหนูสายพันธุ์นี้อาจจะมาแทะเล็มผักผลไม้ของเราได้ เพราะฉะนั้นอย่าละเลยการป้องกันตัวเองจากพาหะนำโรคจากหนูโดยการหาวิธีการกำจัดหนูให้ถูกวิธีหรือถ้าหากไม่รู้จะเริ่มกำจัดหนูให้หมดไปได้อย่างไรสามารถปรึกษาบริษัทกำจัดหนูเพิ่มเติมได้ที่นี่ฟรี

 

– หนูนอรเวย์ : มักจะถูกพบตามแหล่งที่อยู่บริเวณพื้นดิน และท่อระบายน้ำ อาทิเช่น สนามหญ้าหน้าบ้าน, ใต้ถุนบ้าน หรือบริเวณกองขยะ หนูสายพันธุ์นี้จะถูกพบมากที่สุดและที่สำคัญมีขนาดใหญ่มากกว่าหนูสายพันธุ์อื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นหนูสายพันธุ์นี้ยังเป็นพาหะนำโรคชั้นดีที่จะสามารถแพร่กระจายมาสู่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นพื้นที่บริเวณใดที่มีสายพันธุ์หนูนอรเวจำพวกนี้มากเราขอแนะนำให้ปรึกษากับบริษัทกำจัดหนูมืออาชีพเพื่อที่จะได้หาวิธีการกำจัดหนูอย่างถูกวิธีและกำจัดหนูได้ตั้งแต่ต้นตอเพื่อลดจำนวนหนูให้ได้มากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสะอาดมากขึ้นแล้วยังช่วยลดพาหะนำโรคอย่างหนูได้อีกด้วย

– หนูจี๊ด : มักจะถูกพบตามแหล่งที่อยู่บริเวณอาคารบ้านเรือน หนูสายพันธุ์นี้จะชื่นชอบการอาศัยอยู่ในบ้านคนหรือสำนักงาน อาทิเช่น บริเวณตู้เสื้อผ้า, ห้องเก็บของ, ห้องอาหาร, หรือบริเวณลิ้นชัก เป็นต้น และการอาศัยอยู่ของหนูสายพันธุ์นี้ในบริเวณบ้านเรือนหรืออาคารอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านหรือภายในสำนักงานได้ อีกทั้งหนูสายพันธุ์นี้ชื่นชอบการกินผักผลไม้ดังนั้นหากเราไม่ได้เก็บอาหารในครัวอย่างมิดชิดหนูประเภทนี้อาจเข้ามาก่อกวนอาหารภายในครัวได้

สามารถติดต่อสอบถาม รับคำปรึกษาได้ฟรี ไม่มีเงื่อนไข

Line Fb

รับโปรโมชั่นผ่อน 0% 10 เดือน ถึง ธันวาคม 2566

คลิก! ดูโปรโมชั่นเพิ่มเติมnext

 

อันตรายจากหนูที่ควรเฝ้าระวัง

จริงอยู่ที่ว่าการที่เราพบเจอหนูภายในบริเวณบ้านหรือภายในบริเวณสำนักงานอาจทำให้เรารู้สึกกังวลว่าหนูจะเข้ามาทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อสิ่งของภายในบ้านหรือภายในสำนักงานมากน้อยเพียงใดแต่เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องที่เราควรกังวลมากที่สุดนั่นก็คืออันตรายจากหนูที่อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการที่มีหนูเป็นพาหะนำโรคนั่นเอง

– พาหะนำโรคฉี่หนู : โรคฉี่หนูหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งมนุษย์และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ โดยมีหนูหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ เป็นพาหะนำโรค ซึ่งการแพร่เชื้อนั้นเกิดขึ้นจากการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือสัมผัสปัสสาวะของหนูโดยหลังจากติดเชื้อจะปรากฏอาการปวดท้อง, ตาแดง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, เป็นไข้, หนาวสั่น หรืออาเจียน หากเกิดอาการรุนแรงอาจอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อพบหนูในบริเวณที่เราอาศัยอยู่ก็ควรรีบหาวิธีการกำจัดหนูโดยเร็วที่สุด

– พานะนำโรคติดเชื้อไวรัสฮันตา (Hantavirus) : สำหรับการติดเชื้อโรคนี้จะมีสัตว์จำพวกสัตว์ฟันแทะเป็นพานะซึ่งหนึ่งในพาหะนั้นก็ประกอบไปด้วยหนูนั่นเอง การแพร่เชื้อนั้นเกิดขึ้นจากที่เราสัมผัสเชื้อไวรัสจากอุจจาระ, ปัสสาวะ หรือน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยจะแสดงอาการคลื่นไส้อาเจียน, เป็นไข้, หนาวสั่น, ปวดศีรษะ, อาการปวดท้องหรืออาการท้องเสีย หากเกิดอาการที่รุนแรงอาจทำให้ไตวายได้ในที่สุด เมื่อเราได้ทราบถึงอันตรายจากหนูเราก็ไม่ควรละเลยคิดหาวิธีกำจัดหนู แต่ถ้าหากไม่รู้จะเริ่มต้นกำจัดหนูอย่างไรสามารถปรึกษาบริษัทกำจัดหนูมืออาชีพได้ที่นี่ มีบริการสำรวจพื้นที่หน้างานฟรี

– พาหะนำโรคกาฬโรค : กาฬโรคเป็นหนึ่งในโรคที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในพาหะของโรคนี้นั่นก็คือหนูนั่นเอง โดยการแพร่เชื้อนั้นเกิดขึ้นจากการถูกสัมผัสของเหลวที่ปนเปื้อนไปด้วยเชื้อโรคอีกทั้งยังสามารถติดเชื้อโรคนี้ได้จากละอองเสมหะที่พัดผ่านอากาศได้อีกด้วย เรียกได้สามารถสามารถรับเชื้อโรคนี้ได้อย่างง่ายดายและมักจะแสดงอาการอ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยตามร่างกาย, อาเจียน หรือมีไข้อย่างฉับพลัน

เมื่อเราได้ทราบอันตรายจากหนูที่กล่าวไปข้างต้นแล้วเราก็ควรที่จะเฝ้าระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโรคจากพาหะนำโรคที่เป็นหนู ถ้าอยากกำจัดหนูสามารถขอคำแนะนำบริษัทกำจัดหนูเรามีบริการให้คำปรึกษาและเข้าสำรวจพื้นที่ฟรี

 

สอบถามรายละเอียดบริการกำจัดหนูเพิ่มเติมได้ที่ 
https://kingservice.co.th
โทร. : 02 320 4444
E-Mail: service@kingservice.co.th
Facebook Page: https://web.facebook.com/kingservicecenter
Line: @kingservicecenter
Youtube Channel: kingservicechannel

ดูเรื่องน่ารู้ทั้งหมด next